ดอกลิลลี่
ชื่อวิทยาศาสตร์ Lilium spp.
ชื่อสามัญ Lily, Easter Lily
ถิ่นกำเนิด ในทวีปเอเชียแถว ๆ จีนและญี่ปุ่น
ลิลลี่ (Lily, Lilium hybrids) เป็นไม้ดอกประเภทหัว มีดอกขนาดใหญ่เป็นสง่าและสวยงามมาก บางชนิดมีกลิ่นหอมมาก นับว่าเป็นดอกไม้ที่มีราคาแพงที่สุดในปัจจุบัน ใช้ได้ทั้งเป็นไม้ตัดดอกและไม้กระถาง ชนิดที่นิยมปลูกในปัจจุบันคือ ลิลลี่ปากแตร เนื่องจากดอกมีรูปทรงเหมือนแตร ชนิดนี้มีดอกสีขาวมีกลิ่นหอม ในต่างประเทศเรียก Easter lily อีกชนิดหนึ่งเป็นลูกผสมเอเชีย (Asiatic hybrids) มีช่อดอกตั้ง มีดอกหลายสี ชนิดนี้มีดอกไม่หอม อีกชนิดหนึ่งมีดอกหอมมากมีราคาแพงที่สุด คือลูกผสม Oriental hybridsในพื้นที่ของโครงการหลวง เช่น ดอยปุย ดอยอ่างขาง และดอยอินทนนท์ พบว่ามีลิลลี่พันธุ์พื้นเมือง หรือเรียกว่าลิลลี่ดอยขึ้นอยู่ในป่า ออกดอกในเดือนสิงหาคมดอกหอมมากโดยเฉพาะในเวลากลางคืนที่มีอากาศหนาวเย็นปัจจุบันนี้โครงการหลวงได้ทำการวิจัยขยายพันธุ์ลิลลี่ โดยวิธีการเพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อให้เกษตรกรชาวเขาปลูก นอกจากนี้ยังได้ทำการปรับปรุงพันธุ์ลิลลี่ลูกผสมต่างชนิด โดยใช้พ่อแม่พันธุ์ที่นำเข้าจากต่างประเทศผสมกับลิลลี่ดอยอีกด้วย
ดอกพวงคราม
ชื่อวิทยาศาสตร์: Petrea volubilis L.
ชื่อวงศ์: VERBENACEAEชื่อสามัญ: Purple Wreath, Sanpaper Vine, Queen’s Wreath
ชื่อพื้นเมือง: ช่อม่วง
ลักษณะทั่วไป:
ต้น เป็นไม้เลื้อยที่ มีเถาใหญ่แข็งแรง กิ่งก้านก็ค่อนข้างแข็ง เถาอ่อนก็มีขนแต่เมื่อเถาแก่ขนก็จะหายไปเปลือกของต้นหรือ เถาเป็นสีขาวหรือสี น้ำตาลอ่อนเถา สามารถเลื้อยคลุมต้นไม้อื่นไปได้ไกลมากกว่า 20 ฟุต เป็นใบเดี่ยว ออกสลับ เว้าเป็นแฉก
ดอก ดอกเป็นช่อสีม่วงคราม มี 5 กลีบ คล้ายรูปดาว 5 แฉก กลีบรูปขอบขนาน ด้านบนของกลีบจะมีขน โคนกลีบดอกเชื่อมต่อกันเป็นหลอด ภายในดอกมีเกสรตัวอยู่ 4-5 อัน มีก้านร่วมกับเกสรตัวเมีย ปลายเกสรตัวเมียมี 3 แฉก พวงครามมักจะออกดอกและบานพร้อมกันเต็มช่อ ดอกค่อนข้างดกและจะบานทนนานได้หลายวันมา
ฝัก/ผล ผลค่อนข้างกลม เส้นผ่านศูนย์กลาง 4-6 ซม. เมื่อสุกสีม่วงหรือสีเหลืองมีเนื้อฉ่ำน้ำ
ฤดูกาลออกดอก: ออกดอกตลอดปี โดยเฉพาะช่วงฤดูหนาว
การขยายพันธุ์: - เพาะเมล็ด
- การตอนกิ่ง
- การปักชำกิ่ง การปักชำกิ่งในขี้เถ้าแกลบจะได้ผลดีกว่าการปักชำกิ่งในกระบะทราย หรือการปักชำกิ่งในดิน
การใช้ประโยชน์: ปลูกเป็นซุ้มหรือตามรั้วบ้าน และบริโภค
ถิ่นกำเนิด: หมู่เกาะเวสต์อินดีส บราซิล
ส่วนที่ใช้บริโภค: ผลรับประทานได้ ทำแยม เครื่องดื่ม มีวิตามินซี โปรตีน และคาร์โบไฮเดรต
ดอกโครคัส
Crocus หรือ Krokus (โครคุส) ชื่อในภาษาเยอรมันมีลักษณะคล้ายๆกับดอกบัวบ้านเรา
ดอกไม้ ต้อนรับฤดูใบไม้ผลิช่วงนี้อากาศอุ่นขึ้น มีแดดโผล่ออกมาให้เห็น ดอกไม้ก็เริ่มแข่งกันออกดอก บาน สะพรั่งCrocus เป็นไม้ดอกที่นิยมปลูกกันมากค่ะ ไม่ว่าจะที่สวนส่วนตัวหรือสวนสาธารณะมีหลา
สีด้วยกันค่ะ เช่น เหลือง ขาว ม่วง ม่วงอ่อน ฯลฯจะสังเกตว่าหน้าตารูปทรงของดอกโครคัสคล้ายๆ
หญ้าฝรั่น(saffron) ที่เป็นเครื่องเทศให้สีส้มเหลืองในการทำอาหาร ประวัติศาสตร์ได้กล่าวถึง crocus ว่า เป็นดอกไม้ที่ชาวโรมันนิยมปลูกบนหลุมฝังศพ เพราะชาวโรมันยุคนั้นนิยมเชื่อว่า ดอกโครคัสสามารถทำให้ผู้ตายได้จุติใหม่ โดยมีชีวิตที่ดีกว่าเดิม
และในคืนวิวาห์คู่บ่าวสาวนิยมโรยดอกโครคัสบนเตียง เพราะเชื่อว่ากลิ่นของมันเป็นยาโป๊ว แม้แต่ชาวกรีกก็เชื่อเช่นกันว่า กลิ่นโครคัสสามารถกระตุ้นความรู้สึกที่จะมีเพศสัมพันธ์ได้ดีมาก
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น