ดอกไม้ต้อนรับฤดูหนาว 

ดอกฟอเก็ตมีน็อต
กุหลาบสีขาว หมายถึงความรู้สึกที่มีให้ แต่ไม่หวังสิ่งตอบแทน แทนความรู้สึกรักอันบริสุทธิ์แต่ก็แทนความรู้สึกอ้างว้าง โดดเดี่ยวและความเศร้า
ชื่อสามัญ ANGELFACE PIN
ชื่อวิทยาศาสตร์ Cynoglossum Lanceola tum Forssk
ชื่อวงศ์ BORAGINACEAE
ประโยชน์ นิยมปลูกเป็นไม้ประดับ เพราะมีความหมายที่ดี
ฟอร์เก็ต มี น็อต เป็นพืชเมืองหนาว โดยปกติจะปลูกบนที่สูงยิ่งอุณหภูมิต่ำกว่า 20 องศาเซลเซียส จะออกดอกสวยงาม ซึ่งจะรดน้ำวันละครั้ง ช่วง 6-7 โมงเช้า แต่ถ้า นำมาปลูกที่ในเขตพื้นที่ร้อน อย่างกรุงเทพฯ จะต้องรดน้ำวันละ 2 ครั้ง เพราะอากาศร้อนและมีการคายน้ำมาก ถ้าความชื้นไม่พอต้นจะเหี่ยว การรดน้ำต้องรดตอนเช้าช่วงที่แดดอ่อน ๆ เพราะถ้ารดตอนที่แดดแรงจะไม่เป็นผลดีกับต้นไม้ และอีกครั้งในตอนเย็นประมาณ 4-5 โมงเย็น"
ดอกกุหลาบขาว
ดอกคาร์เนชั่น
(Carnation, Dianthus caruyophyllus)
คาร์เนชั่นเป็นไม้ตัดดอกยอดนิยมชนิดหนึ่ง มีทั้งชนิดดอกเดี่ยว แบบสแตนดาร์ด
และดอกช่อ แบบสเปรย์ มีหลายพันธุ์ ดอกหลากสี ทั้งสีขาว สีเหลือง สีชมพู สีส้ม
สีแดง และม่วง บางพันธุ์ก็มีสีมากกว่าหนึ่งสีในดอกเดียวกัน และบางพันธุ์ยังมีกลิ่น
หอมอีกด้วย ถึงแม้คาร์เนชั่นจะมีกลีบดอกแบบบางแต่บานทน สามารถปลูกเป็น
ไม้ตัดดอกได้ดีในที่ที่มีอากาศหนาวเย็น ได้ดอกตลอดปี และเป็นดอกที่มีคุณภาพดี
ดอกเบญจมาศ
ประวัติและความเป็นมาของ ดอกมัม
ดอกมัม หรือ ดอกเบญจมาศ ถือได้ว่าเป็นดอกมงคลของประเทศจีนเลยก็ว่าได้ค่ะ แปลกใจหรือเปล่าค่ะ ว่าทำไมถึงเป็นดอกไม้มงคลของประเทศจีนได้ ก็อย่างที่เรารู้กันค่ะว่าประเทศจีนนั้นเป็นประเทศที่ชื่นชอบบทกวี การแต่งเพลง และถ้าบทเพลงหรือบทกวีที่มากจากนักปราชญ์ของชาวจีนชื่อดังนั้นได้มีการเผยแพร่และได้รับความนิยม จะทำให้ดอกไม้ในบทเพลง บทกวีนั้น กลายเป็นดอกที่จะได้รับความนิยมตามบทเพลงหรือบทกวีนั้นๆ ด้วย ซึ่งเจ้าดอกมัมนี้มีการปลูกขึ้นครั้งแรกที่ประเทศจีนและญี่ปุ่นค่ะ เมื่อเวลา 3,000 กว่าปีมาแล้วโดยปกติแล้วจะชอบแสงแดดจัด มีมากมายกว่า 100 สายพันธุ์ค่ะ บางสายพันธุ์นั้นก็มีกลิ่นหอมพอประมาณ แต่บางสายพันธุ์นี่ซิค่ะมีกลิ่นแรงจนจากกลิ่นหอมกลายเป็นกลิ่นฉุนเลยละค่ะ
ดอกเยอบีร่า
ประวัติความเป็นมา และความหมาย ของ ดอกเยอบีร่า
ตามตำนานของชาวเคลทิคในอังกฤษ เชื่อว่า วิญญาณของเด็กที่ตายไปตอนเล็กๆ จะโปรยดอกเยอบีร่าลงมาสู่ผืนโลก เพื่อปลอบโยนความเสียอก เสียใจของ พ่อแม่ ที่ปักผมสีทอง ที่ประดับประดับดาด้วยสิ่งที่มีลักษณะคล้ายดอกเยอบีร่า ก็ถูกค้นพบในปราสาทไมนวน แห่งเกาะครีต เมื่อมีการขุดค้นพบขึ้นมา และเชื่อว่ามีอายุมากว่า 4000 ปีทีเดียว เครื่องกระเบื้องเคลือบของชาวอียิปต์ ประดับตกแต่งด้วยลายเยอบีร่า ดอกเยอบีร่าสันนิษฐานว่า มาจากภาษาของพวกแองโกลแซกซอน ที่มีความหมายว่า day's eye ซึ่งตรงกับลักษณะของดอกเยอบีร่าที่บานเมื่อพระอาทิตย์ขึ้นและหุบเมื่อพระ อาทิตย์ตกและการแพทย์แผนโบราณยังเชื่อว่ามันสามารถนำมารักษาโรคที่เกี่ยวกับ ตาได้ด้วย อีกทั้งชาวแอสซีเรียน จะนำดอกเยอร่าบีมาบด และผสมกับน้ำมันเพื่อใช้ย้อมผมหงอก ให้กลับดำขึ้นมาใหม่
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น